กศน.ตำบลราไวย์ ที่ตั้งเลขที่ 11/6 ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 1 บ้านในหาน ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต รหัสไปรษณีย์ ๘๓๑๓๐ โทรศัพท์ ๐ ๗๖๒๑ ๑๒๗๗ โทรสาร ๐ ๗๖๒๔ ๐๔๔๐ มีเครือข่ายแหล่งการเรียนรู้ที่อยู่ในตำบลราไวย์ คือศูนย์การเรียนชุมชนบ้านแหลมพรหมเทพ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ อาคารวิสาหกิจชุมชนแหลมพรหมเทพ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
สภาพทั่วไปข้อมูลพื้นฐานเทศบาลตำบลราไวย์
1.1 ที่ตั้งและอาณาเขต
เทศบาลตำบลราไวย์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ตห่างจากที่ว่าอำเภอเมืองภูเก็ต 11 กิโลเมตร ตำบลราไวย์มีพื้นที่ประมาณ 38 ตารางกิโลเมตรกิโลเมตร (ประมาณ 23,750 ไร่) เป็นพื้นที่บนเกาะภูเก็ตประมาณ 23 ตารางกิโลเมตร และเป็นพื้นที่บนเกาะต่าง ๆ อีก 9 เกาะ ประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร ตำบลราไวย์อยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดภูเก็ตมีอาณาเขตดังนี้
ทิศเหนือ จด ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ทิศใต้ จด ทะเลอันดามัน
ทิศตะวันออก จด อ่าวฉลองและทะเลอันดามัน
ทิศตะวันตก จด ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต และทะเลอันดามัน
1.2 ภูมิประเทศ
ภูมิประเทศของตำบลราไวย์ มีลักษณะเป็นที่ราบชายฝั่งรูปร่างค่อนข้างยาวลงมาทางใต้ จากวงเวียนห้าแยก คือแนวเขตแบ่งแยกตำบลมีถนนวิเศษเป็นแนวยาวเรียบชายฝั่งทะเลอันดามัน จด สุดถนนหาดราไวย์ จากนั้นเป็นถนนขึ้นแหลมพรหมเทพ และเข้าสู่ถนนรอบเกาะ และชายฝั่งเลียบเนินเขาไปตำบลกะรน มีสภาพทางกายภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มติดเนินเขาบางแห่งมีป่าไม้ หนองน้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น แหลมพรหมเทพ หาดราไวย์ แหลมกาน้อย แหลมกาใหญ่ หาดในหาน หาดยะนุ้ย หาดอ่าวเสน นอกจากนี้ตำบลราไวย์ยังประกอบด้วยพื้นที่ที่เป็นเกาะต่าง ๆ จำนวน 9 เกาะ คือ เกาะโหลน เกาะเฮ เกาะรายาน้อย เกาะรายาใหญ่ เกาะบอน เกาะมัน เกาะแอว เกาะนอก และเกาะแก้ว
1.3 จำนวนหมู่บ้าน ตำบลราไวย์มีหมู่บ้าน ทั้งหมด 7 หมู่บ้าน ประกอบด้วยหมู่บ้านต่อไปนี้
หมู่ที่ 1 บ้านในหาน หมู่ที่ 5 บ้านบางคณฑี
หมู่ที่ 2 บ้านราไวย์ หมู่ที่ 6 บ้านแหลมพรหมเทพ
หมู่ที่ 3 บ้านเกาะโหลน หมู่ที่ 7 บ้านใสยวน
หมู่ที่ 4 บ้านบางคณฑี
หมู่ที่ 1 บ้านในหาน
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
ประวัติของหมู่บ้านมาจากสถานที่ตั้งของชุมชนเป็นป่าไส และเป็นที่ทำรังของผึ้งยวนจึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านใสยวน” ประมาณปี พ.ศ. 2534 ได้แบ่งแยกหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลราไวย์ เป็นหมู่ที่ 7 ชื่อบ้านใสยวน ชุมชนบ้านใสยวน หมู่ที่ 1 ตำบลราไวย์ หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า บ้านในหาน ทั้งนี้พื้นที่ที่แยกมาเป็นหมู่ที่ 1 ตำบลราไวย์ นั้น อยู่ติดกับทะเล หาดในหาน ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและสงบเงียบ ทุกปีจะ
มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนที่หาดแห่งนี้ บุคคลภายนอกหมู่บ้านก็นิยมเรียกชื่อ “บ้านในหาน”
หมู่ที่ 2 บ้านราไวย์
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
นายจำเริญ มุขดี อดีตผู้ใหญ่บ้านหาดราไวย์ เล่าว่า นายล้อม วงศ์จันทร์ ชาวบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ณ หาดราไวย์ เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2430 ได้แต่งงานสร้างบ้านเรือนเป็นหลักฐานมั่นคง ด้วยความขยันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จึงเป็นที่ยอมรับของเพื่อนบ้านในละแวกหมู่บ้าน จึงได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าเมืองในสมัยนั้น ให้เป็นนายพัน ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกำนัน โดยเรียกกันติดปากว่า กำนันล้อม ถือได้ว่าเป็นกำนันคนแรกของตำบลราไวย์ ต่อมาญาติพี่น้องก็อพยพมาอยู่ด้วย ชื่อ นายเอี่ยม ประจันทบุตร ซึ่งเป็นหมอแผนโบราณ หลวงอนุภาษภูเก็ตการ ซึ่งมาจากเมืองจีน มีชาวเลพวกพลัดหรือพวกสิงห์จากเกาะบริเวณใกล้เคียงหาดราไวย์ มาขออยู่อาศัยด้วย กำนันล้อมได้แบ่งที่ดินทำกินให้ตามส่วน ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้เข้ามาตั้งรกรากกลุ่มแรกในหมู่บ้านหาดราไวย์
หมู่ที่ 3 บ้านเกาะโหลน ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน ในอดีตเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ได้มีชาวบ้านจาก จังหวัดสตูล ชื่อ โต๊ะนางู้ เดินทางมาตั้งบ้านเรือนอยู่บนเกาะโหลน ซึ่งมีสภาพเป็นป่า ต่อมาคนภายนอกเห็นว่ามีคนอยู่ก็พากันอพยพไปอยู่ด้วยหลายครัวเรือน บ้านเกาะโหลนจัดตั้งเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ 2480 มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกชื่อนายดล สองเมือง มีประชากร 33 ครัวเรือน และที่เรียกว่าบ้านเกาะโหลน ผู้นำชุมชนเล่าว่าพอถึงฤดูทำนาชาวบ้านใกล้เคียงกลัวว่าควายที่เลี้ยงไว้จะกินข้าวในนา ก็พาควายที่เลี้ยงไว้กรรเชียงเรือ จูงควายว่ายน้ำมาปล่อยไว้ที่เกาะโหลน พอหมดฤดูทำนาเจ้าของควายก็จะมาพาควายกลับแต่มีควายที่หลุดเชือก เป็นควายเถื่อนอยู่ที่เกาะโหลน ควายเถื่อนพวกนี้ก็จะพากันกินหญ้า กินต้นไม้บนเกาะทำให้โหลนเตียน จึงได้เรียกว่า “บ้านเกาะโหลน”
หมู่ที่ 4 บ้านบางคณฑี
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
เมื่อ 100 กว่าปีก่อน ได้มีชาวมุสลิมจากจังหวัดสตูล เดินทางอพยพมาอยู่ที่บ้านบางคณฑี ได้ตั้งถิ่นฐานมีครอบครัว มีญาติพี่น้องเดินทางมาอาศัยอยู่ด้วย และได้ขยายเผาพันธุ์มากขึ้น จนปัจจุบันมีสภาพเป็นชุมชน ประวัติความเป็นมาของชื่อ บ้านบางคณฑี มาจากหลายแหล่ง สรุปได้ ดังนี้
บ้านบางคณฑี สภาพหมู่บ้าน มีบาง มีคลองเยอะ เวลามีเรือผ่านไป-มา ก็จะพักจอดเพื่อตักน้ำกิน-น้ำใช้ เมื่อก่อนในหมู่บ้านมีคนอยู่น้อย ร้านค้าในหมู่บ้านก็จะเปิดได้เพียง 1 แห่ง ถ้าเปิดหลายแห่งก็จะขายไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าร้านหนึ่งเปิด อีกร้านหนึ่งก็ต้องปิด บางก็เล่าว่า บ้านบางคณฑี เมื่อก่อนคนในหมู่บ้าน มีนิสัยนักเลง อันธพาล ถ้ามีใครพลัดถิ่น ไม่มีเครือญาติในหมู่บ้าน เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านก็จะถูกพวกนักเลง อันธพาล ก่อกวน เล่นงาน คนละทีจนไม่สามารถอยู่ได้ ต้องอพยพออกไปจากหมู่บ้าน
หมู่ที่ 5 บ้านบางคณฑี (ห้าแยก)
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
บ้านห้าแยก หมู่ที่ 5 ตำบลราไวย์ ได้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านมานาน ประมาณมากกว่า 100 ปี พื้นที่หมู่บ้านตั้งอยู่บริเวณวงเวียนห้าแยก จึงเรียกชื่อหมู่บ้านตามสถานที่ตั้ง คือ “บ้านห้าแยก”
หมู่ที่ 6 บ้านแหลมพรหมเทพ
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
บ้านพรหมเทพ ได้แยกออกมาจาก หมู่ที่ 2 ตำบลราไวย์ เมื่อปี พ.ศ. 2516 มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก นายสนิท หยดย้อย เดิมเป็นพื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ได้สงวนไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2479 หลังสงครามโคกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2487 ข้าวยาก หมากแพง จึงได้ให้ชาวบ้านมาทำไร่ ปลูกข้าว ปี พ.ศ. 2519 นายอำเภอชิต ธรรมประวัตได้มีการพัฒนาตัดทางขึ้นแหลมพรหมเทพโดยใช้งบ อบจ. ชาวบ้านได้อพยพขึ้นไปอยู่บนแหลม ลักษณะพื้นที่ยื่นออกไปในทะเลเดิมเรียก “แหลมคอจ้าว” และมีหาดในพื้นที่ คือ หาดพรหมเทพนุ้ย, หาดพรหมเทพใหญ่ จึงใช้ชื่อหมู่บ้าน “บ้านแหลมพรหมเทพ”
หมู่ที่ 7 บ้านใสยวน
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
ชุมชนบ้านใสยวน เป็นชุมชนมุสลิม เดิมชุมชนบ้านใสยวนรวมอยู่ในหมู่ที่ 1 ตำบล ราไวย์ ได้แบ่งหมู่บ้านเป็นหมู่ที่ 7 ตำบลราไวย์ เมื่อปี พ.ศ. 2534 ประวัติชื่อของหมู่บ้าน มาจากสถานที่ตั้งของชุมชนเป็นป่าใส และเป็นที่ทำรังของผึ้งยวน จึงตั้งชื่อชุมชนว่า “ บ้านใสยวน” ชาวบ้านในชุมชนอยู่กันแบบเครือญาติ เดิมประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวนมะพร้าว และเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันชุมชนบ้านใสยวนได้ขยายเป็นหมู่บ้านจัดสรร ธุรกิจบ้านเช่า ทำให้มีคนจากภายนอกเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมากขึ้น สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประกอบกับคนรุ่นใหม่ได้เปลี่ยนอาชีพจาเกษตรกรรมมาเป็นขายแรงงาน รับจ้าง ค้าขาย รับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจบ้านเช่า บ้านจัดสรร
1.4 จำนวนประชากรในตำบลราไวย์
ประชากรตามทะเบียนราษฎร์ทั้งสิ้น 14,439 คน แยกเป็นชาย 6,815 คน หญิง 7,624 คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย 380 คน/ตารางกิโลเมตร จำนวนครัวเรือน 9,956 ครัวเรือน
(ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 ที่มา สำนักทะเบียนอำเภอเมืองภูเก็ต )
|